ย่องๆ ไปหาหนังดูรอบเย็นตามเคย เนื่องจากตั๋วฟรียังเหลืออีก 2 ครั้ง ฮิฮิ… คราวนี้ได้ดูนินจาเรนสักที เพราะมาสามครั้ง ไม่ได้ดูสักครั้ง ในครานี้ก็ใช้สิทธิ upgrade ที่นั่ง ตอนแรกพนักงานบอกว่าเพิ่มอีก 70 บาท แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็จ่ายเพียง 50 บาทเท่านั้น ฮิ้ว….
เอ่อ ตอนซื้อตั๋ว คนที่ซื้อตั๋วคนถัดไปถามว่ากระเป๋าโค้กของเราได้มาไง ก็บอกว่าเอาฝาโค้กไปแลก คนที่ถามนี่รุ่นลุงแล้วนะ แหม่ แสดงว่าเห็นค่าของกระเป๋าเรา
หนังฉาย 18.35 น. คนดูสักสิบคนมั้ง ก็หนังมันเ้ข้านานจนจะออกแล้ว ก็ได้ดูหนังตัวอย่างแบบดิจิตอลสมใจอยาก รวมถึงอวตารดิจิตอลด้วย แต่หนนี้หนังตัวอย่างจะกระชับกว่าอันก่อนที่ได้ดูมา
Ninja Assassin โดยรวมถือว่าสนุกสะใจตามคาด นายเรนก็เล่นได้ดี ผสมกับ CG ที่ถึงอกถึงใจ คือฆ่ากันตั้งแต่ฉากแรกยันสุดท้าย หัวขาด แขนขาด ขาขาด สารพัดขาด แต่ที่ชื่นชมคือ เขาออกแบบฉากต่อสู้ได้ดีมาก คือไม่เร็วจนดูไม่ทันแบบหนังบู๊บางเรื่อง (เซ็งมาก ไอ้บู๊แบบแว้บๆ แล้วก็ตาย)
ด้าน CG ก็ใส่ได้อย่างเหมาะสม อย่างดาวกระจายซูริเกงที่เคยเห็นในหนังนินจาเรื่องอื่นก็ดูงั้นๆ แต่ใน Ninja Assassin เขาทำ CG ของอาวุธพวกนี้ได้อย่างดุเดือดและดูรุนแรงอย่างยิ่ง คือปาดาวกระจายก็รู้สึกว่ามันแรงๆ จริงๆ ทะลุทะลวงจริงๆ
อาวุธประจำกายของพระเอกก็แรงได้ใจ ชอบจริงจริงไอ้มีดบินติดโซ่เนี่ย ….
อีกอย่างคือ หนังเรื่องนี้เหมาะสำหรับการเทสระบบเสียงอย่างยิ่ง ตอนที่สู้กันแล้วปาซูริเกงกันเฟี้ยวฟ้าวก็ให้เสียงได้ดีมากๆ
ความยาวของหนังก็กำลังเพลินๆ คือ 1.30 ชั่วโมงนิดๆ ………และสมควรดูด้วยแบบดิจิตอลอย่างยิ่ง เนื่องจากนินจามันชอบแอบตามเงา การดูแบบดิจิตอลก็จะช่วยให้หนังมันกระจ่างสดใสกว่าฟิล์มปกติมากๆ
สรุปว่าชอบโว้ย หนังเรื่องนี้ ทำมาอีกก็ดูอีก ฮ่าๆ